เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่เมื่อเริ่มตั้งธุรกิจมักจะโฟกัสไปที่ จะทำอย่างไรให้สินค้าของเราขายได้ ก็จะว่าจ้างพนักงานเซลล์ ดีไซเนอร์ กราฟิก มาร์เก็ตติ้ง ก่อนนักบัญชี ซึ่งเจ้าของธุรกิจอาจจะให้เซลล์รับผิดชอบเรื่องจัดการบิลต่างๆ ไปจนกว่าจะรับพนักงานแอดมินเข้ามา
เมื่อเวลาผ่านไป
เจ้าของธุรกิจตัดสินใจขยายขนาดธุรกิจให้ใหญ่ขึ้น
อาจจะปรับเปลี่ยนธุรกิจให้มีสถานะเป็นนิติบุคคล มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
เริ่มวางแผนงบการเงิน ประมาณการค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน
เมื่อนั้นเจ้าของธุรกิจก็จำเป็นที่จะต้องสร้างระบบหลังบ้านให้แข็งแรง
และว่าจ้างนักบัญชี
ความสามารถของนักบัญชี (accountant)
มีหลากหลาย และเป็นคู่คิดให้เจ้าของธุรกิจได้ โดยหน้าที่หลักๆ
คือการทำเอกสารรายการรับ-จ่าย แบบวันต่อวัน, สรุปยอดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน,
วิเคราะห์ต้นทุน รายได้ ค่าใช้จ่ายจากข้อมูลการทำบัญชี, ทำรายงานผลประกอบการในแต่ละเดือน แต่ละไตรมาส และรายปี, รวมไปถึงให้คำแนะนำข้อมูลทางการเงินให้เจ้าของธุรกิจเมื่อต้องมีการติดต่อกับนักลงทุนได้
เจ้าของธุรกิจจึงต้องประเมินจุดคุ้มทุนของธุรกิจตัวเองกับหุ้นส่วนทางธุรกิจว่า
มีปริมาณงานที่เหมาะสมกับเงินเดือนของนักบัญชีแล้วหรือไม่
หรือจะลองปรึกษากับสำนักงานบัญชีที่ว่าจ้างก่อนการตัดสินใจก็ได้
โปรแกรมบัญชีช่วยเจ้าของธุรกิจอย่างไร
โปรแกรมบัญชีเป็นเครื่องมือที่ช่วยเจ้าของธุรกิจในการบันทึกบัญชี ที่ช่วยเปิดบิล ทำบัญชีรายรับรายจ่าย ระบบเงินเดือนของพนักงาน และสามารถดูรายงานงบการเงินได้ ซึ่งเจ้าของธุรกิจเมื่อเริ่มธุรกิจใหม่ๆ ส่วนใหญ่จะยังไม่เข้าใจการทำเอกสารและบัญชี และยังไม่มีทีมงานที่ทำบัญชีได้ ถ้าใช้โปรแกรมบัญชีก็ช่วยให้เจ้าของสามารถทำบัญชีเบื้องต้นได้เอง ไม่ต้องตามหาสำนักงานบัญชีมาช่วยสอนการทำเอกสารซึ่งเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย