การคำนวณแบบ ภงด.90
เป็นภาษีการค้าของบุคคลธรรมดา แม้จะจดทะเบียนการค้า แต่ต้องไม่ใช่บริษัทจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด สิ้นปียื่นแบบภาษี ภงด.90 นำบัญชีที่เราได้สรุปรายได้ที่เกิดขึ้นในปีภาษีทั้งปีนำมาคำนวณแล้วหักค่าใช้จ่ายตามเปอร์เซ็นที่กฏหมายกำหนด แล้วหักด้วยค่าลดหย่อนเหลือเท่าไรนำไปคำนวณภาษี ได้ยอดภาษีเป็นเงินเท่าไร ค่อยนำภาษีครึ่งปีที่จ่ายไปแล้วมาหักออกก็จะเป็นภาษีที่ต้องจ่ายเพิ่มปลายปี
ส่วนจะตัดสินใจว่าจะจัดจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท หรือจะทำการค้าแบบบุคคลธรรมดา ลองพิจารณาหาคำตอบที่เหมาะกับตัวเราดังนี้
- จำเป็นต้องอาศัยความเชื่อถือที่ลูกค้ามีต่อธุรกิจของคุณหรือไม่ในกรณีที่ต้องหาลูกค้าใหม่ แต่ถ้าหากมีลูกค้าเก่าในมืออยู่ที่ค้าขายมานานแล้ว ประเด็นนี้ก็ข้ามไป
- หากคำตอบคือจำเป็น ก็ควรจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด หากกิจการต้องการสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นแก่ลูกค้าเป้าหมายคงหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเมื่อติดต่อครั้งแรกเมื่อเห็นว่าเป็นบริษัทก็จะให้ความเชื่อถือกันตั้งแต่แรก ไม่เว้นแม้แต่การหาลูกจ้างมาทำงานด้วย
หากต้องการประหยัดภาษี เราควรพิจารณาจดแบบไหนดี หากกิจการคาดการณ์ได้ว่าจะมีกำไรเกิน 1ล้านบาทต่อปี หรือหากตอนนี้เป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้กำไรสุทธิก่อนภาษีกำลังจะเกิน 1ล้านบาท ควรเลือกที่จะจดทะเบียนแบบนิติบุคคล โดยมีทุนจดทะเบียนไม่ควรเกิน 5ล้านบาทเพื่อให้เข้าเงื่อนไขSME’s (ขั้นต่ำ1ล้านบาทเมื่อแรกจด)
- พิจารณาข้อดีและข้อเสียระหว่างนิติบุคคลกับบุคคลธรรมดา
การคำนวณแบบ ภ.ง.ด.94
ภงด.94 เป็นภาษีการค้าของบุคคลธรรมดา แม้จะจดทะเบียนการค้า แต่ต้องไม่ใช่บริษัทจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ในการคำนวณรายได้ของแบบ ภ.ง.ด.94 ให้คำนวณตามรายรับที่เกิดขึ้นจริงในช่วง 6 เดือนแรกของปี แล้วให้หักค่าใช้จ่ายได้ตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดในแต่ละประเภทของรายได้หรือหักตามค่าใช้จ่ายจริง (กรณีหักค่าใช้จ่ายตามจริงต้องมีเอกสารการลงบัญชีประกอบด้วย) เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว ให้นำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายนั้นไปหักค่าลดหย่อนที่มีสิทธิหักเหลือเงินได้ก่อนภาษีสุทธิเท่าไร เอาไปคำนวณภาษี แล้วนำมาหักกับใบหัก ณ ที่จ่ายที่ถูกหักไว้ หากมีภาษีที่ต้องชำระเพิ่ม ก็ให้ชำระเพิ่มเลย แต่หากภาษีที่ถูกหักไว้มากกว่าภาษีที่ต้องชำระก็ยังไม่มีสิทธิ์ขอคืนต้องรอปลายปีก่อน